เมนู

ทุปฺปมุญฺจนฺติ โลภวเสน หิ เอกวารมฺปิ อุปฺปนฺนํ กิเลสพนฺธนํ ทฏฺฐฏฺฐานโต กจฺฉโป วิย ทุมฺโมจิยํ โหตีติ ทุปฺปมุญฺจํฯ เอตมฺปิ เฉตฺวานาติ เอตํ ทฬฺหมฺปิ กิเลสพนฺธนํ ญาณขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา อนเปกฺขิโน หุตฺวา กามสุขํ ปหาย ปริพฺพชนฺติ, ปกฺกมนฺติ ปพฺพชนฺตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

พนฺธนาคารวตฺถุ จตุตฺถํฯ

5. เขมาเถรีวตฺถุ

เย ราครตฺตาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เขมํ นาม รญฺโญ พิมฺพิสารสฺส อคฺคมเหสิํ อารพฺภ กเถสิฯ

สา กิร ปทุมุตฺตรปาทมูเล ปตฺถิตปตฺถนา อติวิย อภิรูปา ปาสาทิกา อโหสิฯ ‘‘สตฺถา กิร รูปสฺส โทสํ กเถตี’’ติ สุตฺวา ปน สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตุํ น อิจฺฉิฯ ราชา ตสฺสา รูปมทมตฺตภาวํ ญตฺวา เวฬุวนวณฺณนาปฏิสํยุตฺตานิ คีตานิ กาเรตฺวา นฏาทีนํ ทาเปสิฯ เตสํ ตานิ คายนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา ตสฺสา เวฬุวนํ อทิฏฺฐปุพฺพํ วิย อสุตปุพฺพํ วิย จ อโหสิฯ สา ‘‘กตรํ อุยฺยานํ สนฺธาย คายถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘เทวี, ตุมฺหากํ เวฬุวนุยฺยานเมวา’’ติ วุตฺเต อุยฺยานํ คนฺตุกามา อโหสิฯ สตฺถา ตสฺสา อาคมนํ ญตฺวา ปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโตว ตาลวณฺฏํ อาทาย อตฺตโน ปสฺเส ฐตฺวา พีชมานํ อภิรูปํ อิตฺถิํ นิมฺมินิฯ เขมา, เทวีปิ ปวิสมานาว ตํ อิตฺถิํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ รูปสฺส โทสํ กเถตีติ วทนฺติ, อยญฺจสฺส สนฺติเก อิตฺถี พีชยมานา ฐิตา, นาหํ อิมิสฺสา กลภาคมฺปิ อุเปมิ, น มยา อีทิสํ อิตฺถิรูปํ ทิฏฺฐปุพฺพํ, สตฺถารํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ มญฺเญ’’ติ จินฺเตตฺวา ตถาคตสฺส กถาสทฺทมฺปิ อนิสาเมตฺวา ตเมว อิตฺถิํ โอโลกยมานา อฏฺฐาสิฯ สตฺถา ตสฺสา ตสฺมิํ รูเป อุปฺปนฺนพหุมานตํ ญตฺวา ตํ รูปํ ปฐมวยาทิวเสน ทสฺเสตฺวา เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว ปริโยสาเน อฏฺฐิมตฺตาวสานํ กตฺวา ทสฺเสสิฯ เขมา ตํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปมฺปิ นาเมตํ รูปํ มุหุตฺเตเนว ขยวยํ สมฺปตฺตํ, นตฺถิ วต อิมสฺมิํ รูเป สาโร’’ติ จินฺเตสิฯ สตฺถา ตสฺสา จิตฺตาจารํ โอโลเกตฺวา, ‘‘เขเม, ตฺวํ ‘อิมสฺมิํ รูเป สาโร อตฺถี’ติ จินฺเตสิ, ปสฺส ทานิสฺส อสารภาว’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘อาตุรํ อสุจิํ ปูติํ, ปสฺส เขเม สมุสฺสยํ;

อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภิปตฺถิต’’นฺติฯ (อป. เถรี 2.2.354);

สา คาถาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิฯ อถ นํ สตฺถา, ‘‘เขเม, อิเม สตฺตา ราครตฺตา โทสปทุฏฺฐา โมหมูฬฺหา อตฺตโน ตณฺหาโสตํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตตฺเถว ลคฺคนฺตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[347]

‘‘เย ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ,

สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ;

เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา,

อนเปกฺขิโน สพฺพทุกฺขํ ปหายา’’ติฯ

ตตฺถ มกฺกฏโกว ชาลนฺติ ยถา นาม มกฺกฏโก สุตฺตชาลํ กตฺวา มชฺเฌ ฐาเน นาภิมณฺฑเล นิปนฺโน ปริยนฺเต ปติตํ ปฏงฺคํ วา มกฺขิกํ วา เวเคน คนฺตฺวา วิชฺฌิตฺวา ตสฺส รสํ ปิวิตฺวา ปุน คนฺตฺวา ตสฺมิํเยว ฐาเน นิปชฺชติ, เอวเมว เย สตฺตา ราครตฺตา โทสปทุฏฺฐา โมหมูฬฺหา สยํกตํ ตณฺหาโสตํ อนุปตนฺติ, เต ตํ สมติกฺกมิตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ ทุรติกฺกมํฯ เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีราติ ปณฺฑิตา เอตํ พนฺธนํ เฉตฺวา อนเปกฺขิโน นิราลยา หุตฺวา อรหตฺตมคฺเคน สพฺพทุกฺขํ ปหาย วชนฺติ, คจฺฉนฺตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน เขมา อรหตฺเต ปติฏฺฐหิ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสิฯ สตฺถา ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, เขมาย ปพฺพชิตุํ วา ปรินิพฺพายิตุํ วา วฏฺฏตี’’ติฯ ภนฺเต, ปพฺพาเชถ นํ, อลํ ปรินิพฺพาเนนาติฯ สา ปพฺพชิตฺวา อคฺคสาวิกา อโหสีติฯ

เขมาเถรีวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. อุคฺคเสนวตฺถุ

มุญฺจ ปุเรติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อุคฺคเสนํ อารพฺภ กเถสิฯ